BodyTite Program

นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของการสลายไขมัน จากประเทศอิสราเอล โดยอาศัยเทคโนโลยี RFAL TM ( Radio – Frequency Assisted Liposuction ) ในการดูดไขมัน

Body Tite สลายไขมันได้อย่างไร?
เทคโนโลยี RFAL TM ( Radio – Frequency Assisted Liposuction ) คือ การใช้คลื่นความถี่วิทยุ ( Radio frequency ) ชนิด Bipolar พลังงานจากคลื่นความถี่วิทยุนี้ จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนที่เนื้อเยื่อผิว อุณหภูมิของผิว บริเวณที่ทำการรักษาจะถูกกระตุ้นให้สูงขึ้นไม่เกิน 45 °C โดยเครื่องสามารถปรับตั้งค่า Cut-Off ได้ตั้งแต่ 35 °C – 45 °C และบริเวณด้ามจับจะมี Temperature Sensor สำหรับวัดอุณหภูมิที่ผิว ( เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดความร้อนมากเกินไปที่เนื้อเยื่อ ) วิธีนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยเซลล์ไขมันบริเวณที่ถูกทำลายจะสลายเป็นน้ำมัน ( melt fat ) อย่างรวดเร็ว และถูกดูดออกมาอย่างง่ายดายโดยผ่านท่อขนาดเล็ก อาจจะมีไขมันส่วนเล็กน้อยเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่ ภายใน แต่ก็จะถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกระบวนการทางธรรมชาติ ทำให้ระยะเวลาในการทำแต่ละครั้งเวลาน้อยมาก นอกจากนี้แล้ว RF จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน , การหดตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อชั้นบางๆ ที่อยู่ในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังทั้งหมดกระชับขึ้นมาก จนส่งผลให้เกิดการยกตัวขึ้น หลังจากทำการรักษา


Body Tite สามารถกำจัดไขมันส่วนใดได้บ้าง?
สามารถกำจัดไขมันได้หลายจุด เช่น ท้อง , สะโพก , ก้น ,หลัง , ต้นขา , เข่า , ต้นแขน , คอ , สีข้างและหน้าอก เป็นต้น

More from this accountSee all

Clatuu Program

นวัตกรรมการลดไขมันด้วยความเย็นแบบ 360 องศา ไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น CLATUU สลายไขมันได้อย่างไร? การรักษาด้วยวิธีการ Cryolipolysis เริ่มต้นโดยการให้ความเย็นในปริมาณที่เหมาะสมแก่เซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง และรักษาระดับความเย็นนั้นไว้ระยะหนึ่งจนเซลล์ไขมันแข็งตัว หลังจากการนั้นประมาณ 3 วัน เซลล์ไขมันจะเริ่มเกิดกระบวนการ apoptosis และภายใน 14 วัน ระบบน้ำเหลืองจะเริ่มกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้ว ออกจากร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ไขมันไม่สามารถกลับมาเพิ่มจำนวนได้อีก มีผลให้จำนวนเซลล์ไขมันลดลงและชั้นไขมันบางลงอย่างเห็นได้ชัด โดยผลการรักษาจะเริ่มชัดเจนในสัปดาห์ที่ 6 และดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องจนถึง 2 -4 เดือน CLATUU สลายไขมันได้อย่างไร? การรักษาด้วยวิธีการ Cryolipolysis เริ่มต้นโดยการให้ความเย็นในปริมาณที่เหมาะสมแก่เซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง และรักษาระดับความเย็นนั้นไว้ระยะหนึ่งจนเซลล์ไขมันแข็งตัว หลังจากการนั้นประมาณ 3 วัน เซลล์ไขมันจะเริ่มเกิดกระบวนการ apoptosis และภายใน 14 วัน ระบบน้ำเหลืองจะเริ่มกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้ว ออกจากร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ไขมันไม่สามารถกลับมาเพิ่มจำนวนได้อีก มีผลให้จำนวนเซลล์ไขมันลดลงและชั้นไขมันบางลงอย่างเห็นได้ชัด โดยผลการรักษาจะเริ่มชัดเจนในสัปดาห์ที่ 6 และดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องจนถึง 2 -4 เดือน CLATUU สามารถกำจัดไขมันส่วนใดได้บ้าง? บริเวณที่สามารถกำจัดไขมันด้วย CLATUU ได้แก่ ต้นแขน บราไลน์ หน้าท้อง แผ่นหลัง บริเวณข้างลำตัว (love handle) และต้นขา

LIPO LIFT Program

เป็นการฉีดยาเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อสลายไขมันส่วนเกิน ลด Cellulite กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อยหลังการสลายไขมัน LIPO LIFT กำจัดไขมันได้อย่างไร? Lipo Lift เมื่อถูกฉีดเข้าไปในชั้นไขมัน จะทำลายเซลล์ไขมัน เมื่อเซลล์ไขมันตายก็จะกลายเป็นของเสีย ซึ่งของเสียจะถูกขับออกทางระบบน้ำเหลือง บริเวณใดบ้างที่สามารถทำการรักษาด้วย Lipo Life ได้ ? บริเวณที่สามารถทำ Lipolift ได้แก่ หน้าท้อง ต้นขาด้านนอก ต้นขาด้านใน ก้น ต้นแขน หลัง หลังส่วนล่างเอว คางสองชั้น ร่องแก้ม แก้มย้อย หน้าอกของผู้ชาย น่อง

Vela System Program

Vela II เป็นเครื่องลดเซลลูไลท์ และขนาดเส้นรอบวงโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องแทงเข็ม หลังจากการทำการรักษาแล้วไม่ต้องพักฟื้น สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างชัดเจน มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองคุณภาพจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา คุณจึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ได้รับ การทำงานของเครื่อง Vela II Vela II เป็นการทำงานร่วมกันของ 4 เทคโนโลยีอย่างผสมผสาน ได้แก่ พลังงานความร้อนจากแสง Infrared (IR) และคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio frequency-RF) ร่วมกับลูกกลิ้ง (Roller) ระบบสูญญากาศ (Vacuum) จึงเพิ่มกระบวนการเผาผลาญไขมันใต้ผิว ทำให้เซลล์ไขมันลดขนาดลง ผิวกระชับ เรียบเนียนขึ้น ทำให้เซลลูไลท์แตกตัว กระจายออกและถูกขับออกไปตามระบบน้ำเหลืองได้ดีขึ้นเพิ่มการไหลเวียนเลือดใต้ผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งจะทำให้ขนาดของเส้นรอบวงลดลง ผิวกระชับ เรียบเนียน รูปร่างได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น ใครที่เหมาะกับการรักษาด้วย Vela II ผู้ที่มีปัญหาเซลลูไลท์ หรือมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ตามบริเวณต้นขา สะโพก ก้น หน้าท้อง หรือต้นแขน ต้องการลดสัดส่วนให้ผิวกระชับขึ้น หรือหลังจากดูดไขมัน (Liposuction) และเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการลดและกระชับรูปร่างภายหลัง คลอดบุตร

Coolsculpting Program

การกำจัดไขมันออกจากร่างกายด้วยความเย็นจุดเยือกแข็งระดับ -5 °C เพื่อสลายไขมันโดยไม่ทำลายเซลล์เนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ Coolsculpting สลายไขมันได้อย่างไร - เลือกหัวเครื่องมือ (Applicators) ให้เหมาะสมกับบริเวณที่ทำ ซึ่งจะมีหลากหลายลักษณะ และหลายขนาดเพื่อให้เหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการทำ - วางหัวเครื่องมือ (Applicators) ไปยังบริเวณที่มีไขมันสะสมเฉพาะส่วน พร้อมปล่อยพลังงานความเย็นอุณหภูมิที่ติดลบกว่า -5 °C พลังงานความเย็นจะเข้าไป Freeze เซลล์ไขมัน - จากเซลล์ไขมันที่จากเดิมเกาะกลุ่มกันอย่างหนาแน่น จะเกิดการแตกตัวและสลายไปในที่สุด - เซลล์เม็ดเลือดขาวในร่างกายจะทำหน้าที่กำจัดเซลล์ไขมันที่แตกตัว เปลี่ยนเป็นของเสียกลับไปในระบบน้ำเหลือง และร่างกายจะทำการระบายออกตามกลไกของธรรมชาติ โดยทั้งทางขับถ่ายและทางเหงื่อ ผลที่ได้จากการกำจัดไขมันด้วย Coolsculpting - หลังทำ 2-3 วัน เซลล์ไขมันจะเริ่มสลายไป - หลังทำ 3 สัปดาห์จะค่อยๆเห็นความเปลี่ยนแปลง - หลังทำ 1-3 เดือน จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนชัดเจนขึ้น

HIFU BODY Program

อัลตร้าฟอร์มเมอร์ ทรี(Ultraformer III) คือหนึ่งเดียวของเทคโนโลยีโฟกัสอัลตร้าซาวน์ เป็นเครื่องที่สามารถผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง Micro & Macro Focused Ultrasound (ไมโครแอนด์แมคโครโฟกัสอัลตร้าซาวน์) ที่เรียกว่า MMFU (เอ็มเอ็มเอฟยู) MMFU (เอ็มเอ็มเอฟยู) ทำงานอย่างไร? MMFU คือเทคโนโลยีการปล่อยพลังงาน 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.Micro Focused Ultrasound เทคโนโลยีการยกกระชับบริเวณใบหน้า 2.Macro Focused Ultrasound เทคโนโลยีการกระชับสัดส่วนของร่างกาย โดยจะปล่อยพลังงานความร้อนลงถึงชั้นไขมันซึ่งความร้อนดังกล่าว สามารถสลายไขมันส่วนเกิน อีกทั้ง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ช่วยกระชับสัดส่วนของร่างกายที่ทำการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใครที่เหมาะกับการทำ HIFU BODY (Ultraformer III)? ผู้ที่ต้องการกระชับสัดส่วนของร่างกาย และต้องการลดขนาดเส้นรอบวง บริเวณแขน, ต้นขา, หน้าทอง, Bra Line, Love Handle, ส่วนเกินบริเวณรอบหัวเข่า ฯลฯ หลังการรักษาทันทีด้วย HIFU BODY (Ultraformer III)? หลังการรักษา ในบางรายอาจมีผิวแดงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็จะหายไปเองภายในไม่เกินหนึ่งชั่วโมง และสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่มีบาดแผลใดๆ