เทคนิคการผลักตัวยาลงสู่ผิวด้วยการใช้อุปกรณ์ Meso Gun พร้อมหัวเข็ม 9 Pin ใช้หลักการแม่เหล็กไฟฟ้า และการฉีดด้วยระบบสูญญากาศ โดยสารฉีดจะถูกส่งออกมาในปริมาณที่เท่ากัน และ พร้อมๆ กัน ในเวลาเดียว โดยผ่านเครื่องมือที่สามารถควบคุมปริมาณตัวยาที่ฉีด ความลึก และจังหวะในการฉีดที่มีความสม่ำเสมอ ความรู้สึกขณะทำการรักษา ก่อนการทำการรักษาด้วย MG Glow จำเป็นต้องทายาชาบนผิวก่อนประมาณ 15-20 นาที การทายาชาจะช่วยทำให้รู้สึกสบายขึ้น ขณะทำ MG Glow บนผิวอาจรู้สึกมีแรงดูดที่ผิวเบาๆ มีเลือดออกบางจุดที่ทำการรักษา หลังทำเสร็จจะรู้สึกร้อนบนผิวเล็กน้อย (ในบางราย) และอาการจะหายภายใน 30 นาที ส่วนอาการแดงจะค่อยๆ ลดลงเองภายใน 2 ชั่วโมง ซึ่งขนาดเข็มมีความเล็กกว่าจึงเจ็บน้อยกว่า และ ฟื้นฟูผิวได้เร็วกว่า ใครที่เหมาะกับการทำการรักษาด้วย MG Glow - ผู้ที่ต้องการให้ผิวมีสุขภาพดี กระจ่างใส ฉ่ำวาว - ผู้ที่มีฝ้า กระ หรือ รอยสิว - ผู้ที่มีใต้ตาคล้ำ ผลที่ได้จากการรักษา - ปรับปรุงซ่อมแซมโครงสร้างผิวและความเสื่อมของผิวหนัง - ช่วยทำให้ผิว เนียนนุ่ม กระจ่างใส และ ชุ่มชื้น หลังการทำในทันที - กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่จากภายใน - ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสดูอ่อนเยาว์ - ช่วยฟื้นฟู พร้อมต่อต้านริ้วรอย - เพิ่มการกระตุ้นการไหลเวียนของท่อน้ำเหลือง - ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล? MG Glow แนะนำทุก 2 สัปดาห์ ผิวคุณจะดูกระจ่างใส ฉ่ำวาว จุดด่างดำ ฝ้า กระ จางลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เป็นการฉีดสารอาหารผิว ที่รวบรวมวิตามินบำรุงผิวถึง 57 ชนิด พร้อมการผสมผสาน การทำทรีตเมนต์ เพื่อเพิ่มการดูดซึมตัวยาโดยวิธี Mesotherapy คือ การใช้เข็มสะกิดผิวหนังเพื่อให้ผิวดูดซึมตัวยาได้ดีมากขึ้น โดยวิตามินที่หลากหลายจะเข้าไปช่วยฟื้นฟู และซ่อมแซมเซลล์ผิวระดับ DNA ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง และช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ประโยชน์ที่ได้รับ - ฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง และช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ - ช่วยฟื้นฟู และซ่อมแซมเซลล์ผิวระดับ DNA คงความอ่อนเยาว์ให้กับผิว - เพิ่มความอิ่มน้ำ เสริมสร้าง Collagen - เพิ่มสารอาหารให้แก่ผิวหน้าทำให้ผิวขาวกระจ่างใสเรียบเนียนชุ่มชื้นขึ้น ความถี่ในการรับบริการ ภายหลังทำจะรู้สึกว่าผิวหน้าขาวใส และนุ่มเนียนขึ้น ในวันรุ่งขึ้น สามารถทำได้ทุก 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง เมื่อทำต่อเนื่อง ฝ้ากระ จะค่อยๆ จางลง ผลข้างเคียง - อาจมีรอยแดงและเจ็บเล็กน้อยจากการใช้เข็มสะกิดยา ซึ่งอาการจะหายไปภายในครึ่งชั่วโมง ข้อห้ามในการทำ - มีแผลอักเสบติดเชื้อบริเวณใบหน้า - แพ้ตัวยาที่ใช้ เช่น แพ้ยาชา - มีผื่นผิวหนังอับเสบ (อาจระคายเคืองจากยาชา) - มีประวัติการแพ้อาหารทะเล

นวัตกรรมใหม่ ส่งพลังงานแสงที่ความเร็ว 1 ต่อ ล้านล้านวินาที รักษาฝ้าทำลายเม็ดสีในชั้นผิวหนังลึก โดยไม่ก่อให้เกิดความร้อน ผิวเนียนกระจ่างใสได้รวดเร็ว โดยไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้ WHAT IS PICOSECOND TECHNOLOGY? นับเป็นเทคโนโลยีในระดับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของการพัฒนาพลังงานแสง เป็นการเปลี่ยนวิธีการคิดใหม่ในการส่งพลังงานแสง ซึ่งในอดีตจะใช้การสะสมความร้อนเป็นหลักมาเป็นวิธีการส่งพลังงานแบบใหม่ที่เรียกว่า "PICOSECOND TECHNOLOGY" ซึ่งเป็นการส่งพลังงานแสงที่มีความเร็วสูงสุดในระดับ 1 ต่อ ล้านล้านวินาที (PICOSECOND = ONE TRILLIONTH OF A SECOND) ซึ่งในอดีตเทคโนโลยีที่ดีที่สุดก็อยู่ที่ระดับ 1 ต่อพันล้านวินาที (NANOSECOND = ONE - BILLIONTH OF A SECOND) เท่านั้นความเร็ว ในระดับ PICOSECOND ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลในการทำงานของพลังงงานแสงทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า PHOTOACOUSTIC คือพลังงานแสงถูกดูดกลืนจนเกิดเป็นแรงดันและแตกกระจายออกโดยไม่ทำให้เกิดการสะสมความร้อนในบริเวณข้างเคียง ไม่เพียงแต่ทำให้เม็ดสีแตกกระจาย แต่ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวเรียบเนียน ริ้วรอยลดลง นอกจากนี้พลังงานแสงที่ความถี่สูงมากจนทำให้เกิดการเปลี่ยนสสารเป็นแรงดันเล็กๆ ในระดับนาโนกระจายทั่วผิวหนังในระดับคอลลาเจนลึกยังมีผลทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่จำนวนมหาศาล จึงไม่เพียงแต่ทำให้ ฝ้า กระ รอยดำจางหายไป แต่ยังช่วยให้ผิวมีความแน่น เนียน และกระจ่างใสริ้วรอยลดน้อยลง ไปพร้อมกัน เครื่องสามารถทำการรักษาอะไรได้บ้าง? - ลบรอยสัก (สีดำ สีแดง สีเหลือง สีเขียว) Tattoo Removal (All Color เพราะเป็นเทคโนโลยี PICOSECOND) - ฟื้นฟูสภาพผิวหน้า (Rejuvenation) - รักษาปัญหาเรื่องจุดด่างดำ เช่น กระ รอยดำต่างๆ - ปรับสีผิวให้ขาวเนียนสม่ำเสมอ

เทคโนโลยีสำหรับผู้ที่มีปัญหาจุดด่างดำ เช่น กระ ฝ้า รอยดำจากสิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ Laser-Toning จะช่วยลดจุดด่างดำจางลง พร้อมกับการซ่อมแซมและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปพร้อมๆ กัน จึงทำให้สีผิวเสมอกัน เรียบเนียน ใบหน้ากระจ่างใสขึ้น LASER-TONING ทำงานอย่างไร? Laser-Toning จะทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิว ทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีผลิตเม็ดสีลดลง ฟื้นฟูสภาพคอลลาเจนเดิมให้แข็งแรงขึ้น (เลเซอร์ที่ใช้ยิง คือ Medlite Q-Switch Nd:YAG) ดีกว่าการผลัดเซลล์ผิวด้วยวิธีอื่นอย่างไร? - ไม่มีการระคายเคืองจากสารเคมีจำพวกกรด - ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนเอาทรายมาขัดผิว - หลังทำเสร็จสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ - ไม่มีสะเก็ด ไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออก และไม่ต้องใช้ยาชา - ผลการรักษาอยู่ได้นาน - สามารถทำการรักษาได้ในคนผิวขาวและคนผิวดำ ผลที่ได้จากการรักษา? - ฟื้นฟูสภาพคอลลาเจน ผลัดผิวชั้นบน - เม็ดสีและจุดดำบนผิวจางลง - ผิวใสขึ้นและสีผิวสม่ำเสมอ - ผิวนุ่มขึ้น - รูขุมขนเล็กลง - ริ้วรอยเล็กๆลดลง

เป็นการฉีดสารอาหารเข้าสู่ผิว ลดเลือนฝ้า กระ และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวเพื่อให้ใบหน้าเนียนใส กระชับ ขาวกระจ่างขึ้น และ เป็นการผสมผสาน การทำทรีตเมนต์ เพื่อเพิ่มการดูดซึมยาโดยวิธี Mesotherapyคือ ใช้เข็มสะกิดผิวหนังเพื่อให้ผิวดูดซึมยาเพิ่มขึ้น ด้วยวิตามินหลายชนิด ผลที่ได้รับหลังจากการรักษาด้วย Skin Shiner - ลดเลือนฝ้า กระ และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ให้ผิวขาว กระจ่างใส - กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ เพิ่มความอิ่มน้ำ เสริมสร้าง Collagen ฟื้นฟูสภาพผิว - เพิ่มสารอาหารให้แก่ผิวหน้าทำให้ผิวขาวใสเรียบเนียนชุ่มชื้นขึ้น คงความอ่อนเยาว์ให้กับผิว