สิวเสตียรอยด์ คือ ภาวะที่มีอาการ สิว เกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ โดยปกติจะเกิดในผู้ที่ได้รับ สารเสตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน มาถึงตรงนี้ คงเกิดคำถามว่า แล้ว สเตียรอยด์ คืออะไร ก่อนอื่น หมอจะอธิบายเกี่ยวกับ การใช้ ยาเสตียรอยด์ ในวงการแพทย์ก่อนนะคะ

เสตียรอยด์ คือ ชื่อสั้นๆของ ยากลุ่ม corticosteroid ซึ่งยากลุ่มนี้ จะมีฤทธิ์ ต้านการอักเสบ ได้ทั่วร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า วงการแพทย์ นำมาใช้ประโยชน์ในการรักษาอาการอักเสบ หรือ กดภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติมากมาย

อาการที่เกิดจากการใช้ ครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์

ผิว ติด สเตียรอยด์

การใช้ สเตียรอยด์สำหรับทาผิวต่อเนื่อง เป็นเวลานานๆ ให้สังเกตอาการที่บ่งบอกว่า ต้องใช้สเตียรอยด์อยู่เรื่อยๆ เพื่อคงการรักษาสภาพไว้ ไม่สามารถหยุดได้ พอหยุดแล้ว จะมีอาการต่างๆกลับมา สังเกตดีๆช่วงที่หยุด จะมีอาการผิวแดงๆ คล้ายไหม้แดด ผิวแห้งลอก ระคายเคืองง่าย ผิวหนังอักเสบ

เป็น สิว สเตียรอยด์

สิวสเตียรอยด์ คือ ภาวะของกลุ่มอาการทางผิวหนังที่มีอาการ เป็นผื่นคล้ายสิว ภาษาอังกฤษเรียกกลุ่มอาการแบบนี้ว่า Acneiform Eruption ซึ่งกลุ่มอาการนี้ จะเรียกว่าอาการสิวอย่างเดียวก็ไม่ใช่ค่ะ เพราะ เป็นกลุ่มอาการที่มีทั้ง เป็นสิวแบบสิวแท้(Acne Vulgaris) รวมถึง อาการอื่นๆที่คล้ายสิว โดยมีสาเหตุมาจากการใช้สเตียรอยด์แบบทาเฉพาะที่ โดยปริมาณสูงในช่วงสั้นๆ หรืออาจปริมาณน้อยแต่ระยะเวลานาน ก็ได้

อาการอื่นๆที่คล้ายสิว ได้แก่ รูขุมขนอักเสบ(Malazzesia Folliculitis) และ ภาวะโรซาเชีย(Rosacea)
จะเห็นว่ากลุ่มอาการจากการใช้สเตียรอยด์นี้ มีหลายแบบทั้งสิวแท้ และ อาการที่คล้ายสิว แต่ทั้งหมดนี้เรารวมๆเรียกให้เข้าใจง่ายว่า สิวสเตียรอยด์
สิวเสตียรอยด์ อาจเกิดได้ ในช่วงที่กำลังใช้สเตียรอยด์อยู่ หรือ เกิดหลังจากหยุดสเตียรอยด์ ไปแล้วก็ได้

การรักษาสิวโดยวิธีทางการแพทย์ มีหลายวิธี ขึ้นกับสาเหตุและความรุนแรงของคนไข้แต่ละคน ได้แก่

ยาทา ทั้งกลุ่มที่ละลายหัวสิว ฆ่าเชื้อสิว
ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เหมาะกับสภาพผิว ได้แก่ สบู่ล้างหน้า ครีมบำรุง ครีมกันแดด
ยารับประทาน มีทั้ง ยาลดการทำงานของต่อมไขมัน ยาฆ่าเชื้อต่างๆ
การรักษาเสริม เพื่อให้มีประสิทธิภาพ เห็นผลเร็วขึ้น เช่น กดสิว ทรีทเมนท์ลดสิว เลเซอร์ ฉายแสง
ซึ่งแนวทางการดูแลของแพทย์แต่ละที่อาจมีแตกต่างกันไป ด้วยค่ะ