CELLEC ACNE LASER รักษาสิวและดูแลรอยดำรอยแดงสิวไปพร้อมกัน Cellec Acne Laser คืออะไร ฆ่าเชื้อสิว สิวอุดตันแห้ง ลดสิวอักเสบ และรอยแดงรอยดำสิว เป็นลำแสงไอพีแอล ทำงานคล้ายเลเซอร์ มาตรฐานสูงกว่าไอพีแอลทั่วไป ผ่านการรับรองทั้งจาก อย.ไทย และเกาหลี ค่ะ เหมาะกับ ช่วงที่สิวกำลังเห่อ มีสิวอุดตันและอักเสบชัดเจน และมีรอยสิวด้วย โดยเฉพาะรอยแดงจากสิว การรักษาทำบ่อยแค่ไหน ทำได้ทุก 1-2 สัปดาห์ เวลาในการทำแต่ละครั้ง ประมาน 15 นาที IPL เป็นลำแสงที่คล้ายเลเซอร์ค่ะ ช่วยเรื่องหลายเรื่อง ทั้งความกระจ่างใส รอยแดงรอยดำ กำจัดขน ซึ่งจุดเด่นของ Cellec IPL ที่เหนือกว่า IPL ทั่วไป คือ มีโหมด Photoshower และโหมด Acne ซึ่งช่วยฆ่าเชื้อ C.acnes ที่เป็นต้นเหตุของสิวอักเสบได้ด้วยทำให้สิวแห้งขึ้น และ ยังมีโหมด Rosacea ที่ช่วยลดรอยแดงจากสิวได้ ถือว่า ใช้ Cellec เครื่องเดียวช่วยทั้งสิวอักเสบ และรอยดำรอยแดงได้พร้อมกัน ซึ่งถ้าเป็น IPL ทั่วไปจะช่วยเพียงเรื่องความกระจ่างใส เป็นหลักค่ะ โดย Cellec IPL จะมีอุปกรณ์กรองแสง (cut off filter) ทำให้เครื่องปล่อยผ่านเฉพาะช่วงคลื่นที่ต้องการให้เจาะจง โดยแต่ละ cut off filter จะเจาะจงทีละปัญหาผิว เช่น Skin rejuvenation – ฟื้นฟูผิว ลดหน้าหมองคล้ำ ผลัดเซลล์ผิว Pigment – ลดกระตื้นสีเข้ม รอยดำสิว ฝ้า Acne treatment – ลดการอักเสบของสิวให้แห้งและฝ่อตัวลง ลดรอยแดง Vascular และ Rosacea – ลดเส้นเลือดฝอยเล็กๆบริเวณใบหน้าและลดรอยแดง Hair removal – กำจัดขนส่วนเกิน เช่น บริเวณรักแร้ หน้าแข้ง ใบหน้า สรุปว่า Cellec IPL ในโปรแกรม Cellec Acne Laser สามารถช่วยได้ทั้งฆ่าเชื้อแบคทีเรีย C.acnes อย่างชัดเจน ช่วยลดการอักเสบ ช่วยลดรอยดำรอยแดง หน้าใส เรียกว่าครบสูตรรักษาสิวเลยค่ะ ขั้นตอน ความรู้สึก ขณะทำเลเซอร์ และการดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์ * ขณะทำ จะมีการลงเจลเย็น และปิดตา * ระหว่างยิง จะรู้สึกดีดเบาๆคล้ายยางดีด ไม่เจ็บ และมีแสงคล้ายแฟลตกล้องถ่ายรูป * ใช้เวลาทำประมาณ 5-10 นาที * หลังทำ เจ้าหน้าที่เช็ดทำความสะอาดผิว * หลังทำเลเซอร์ สามารถล้างหน้า แต่งหน้า ใช้ครีมบำรุงได้ตามปกติ * หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ ประมาณ 2-3 วัน
KS WHITENING LASER คือ เลเซอร์รักษารอยดำสิวได้อย่างเจาะจง เหมาะกับ รักษารอยดำจากสิว หลังจากสิวหายแล้ว การรักษาทำบ่อยแค่ไหน ทำได้ทุก 2 สัปดาห์ เวลาในการทำแต่ละครั้ง ประมาน 15 นาที Q-Switched ND:YAG Laser รุ่น COSJET TR By WONTECH เลเซอร์ลดเม็ดสีได้อย่างเจาะจง โดยเฉพาะรอยดำจากสิว Cosjet TR (Q-switched Nd YAG) เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 532 และ1064 นาโนเมตร ใช้ในการรักษาความผิดปกติของเม็ดสี โดยเลเซอร์ชนิดนี้จะปล่อยคลื่นความถี่ ไปทำลายเม็ดสีเมลานิน ที่ชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ ทำให้เซลล์สีแตกกระจายออกแล้วถูกกำจัดออกจากผิวหนังโดยเม็ดเลือดขาว ไม่มีการทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง KS whitening laser ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง - รอยดำจากสิว รอยแดง - ฝ้า กระแดด - กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิว ให้ผิวกระจ่างใส และเรียบเนียนขึ้น - กระชับรูขุมขนให้เล็กลง - รอยสัก - รอยคล้ำริมฝีปาก ขั้นตอนการรักษา ทำความสะอาดผิวหน้าและเครื่องสำอางค์ออกให้หมด ปิดตา ขณะรักษาจะมีการเป่าลมเย็นให้สบายผิว ระหว่างทำไม่เจ็บ เพียงแค่รู้สึกคล้ายเม็ดฝนดีดที่ผิว หลังจากทำสามารถดูแลตัวเองได้ตามปกติ (ยกเว้นกรณีคุณหมอยิงแบบมีสะเก็ด จะมีสะเก็ดขึ้นประมาณ 1-2 สัปดาห์) ทำกี่ครั้งเห็นผล - จำนวนครั้งขึ้นกับความรุนแรงและปัญหา - ในกรณีรอยดำสิว แนะนำทำทุก 2 สัปดาห์ ต่อเนื่อง - ประมาณ 3 - 6 ครั้ง ค่ะ ทุกครั้งที่ทำรอยจะจางลง- ประมาณ 10% หลังทำ
เลเซอร์รักษาหลุมสิว สร้างผิวใหม่ให้เรียบเนียน Venus Viva MD หลังจากสิวหายแล้ว ปัญหาที่มักเจอตามมาคือ รอยแผลเป็นต่างๆ ถ้าเป็นรอยดำหรือรอยแดง รักษาไม่ยาก ไม่นานก็หาย แต่ปัญหาหลุมสิวนี่สิ ลองทาครีมก็แล้ว หลุมสิวยังไม่หายสักที ทำให้เป็นปัญหาปวดใจ แต่งหน้าปกปิดก็ไม่หมด เสียเซลฟ์ อยากให้หน้ากลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม จึงมีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาหลุมสิว อย่าง Venus Viva MD (วีนัสวีว่าเอ็มดี) เข้ามาช่วยฟื้นฟูหลุมสิวให้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง แถมยังช่วยแก้ไขรูขุมขนกว้าง ปรับผิวหน้าให้กระจ่างใสขึ้นอีกด้วยค่ะ หลุมสิวเกิดจากอะไร หลุมสิว เป็นกระบวนการการรักษาตัวเองของร่างกายอย่างนึงค่ะ คือ หลังจากเกิดบาดแผลหรือการอักเสบ เช่น ตอนเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ จะมีทั้งเชื้อแบคทีเรียและหนองอยู่ภายใน การอักเสบของสิวจะทำให้มีการหลั่งเอ็นไซม์ Collagenase ออกมา สลายคอลลาเจนที่ผิวเราและเนื้อเยื่อบริเวณรอบข้าง จึงทำให้ผิวหนังยุบลงไป และมีการสร้างพังผืดดึงรั้ง จึงเกิดเป็นหลุมสิวขึ้นมาค่ะ Venus Viva MD คืออะไร Venus Viva MD คือ นวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม โดยใช้พลังงาน Nanofractional Radiofrequency ร่วมกับ SmartScan ปล่อยพลังงานความร้อนอย่างพอเหมาะ เพื่อกระตุ้นให้ชั้นผิวหนังมีการสร้างผิวใหม่ จึงฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน ตึงกระชับ กระจ่างใสจากภายในได้ Venus Viva MD เหมาะกับหลุมสิวแบบไหนบ้าง Venus Viva MD สามารถฟื้นฟูหลุมสิวได้ทุกชนิดค่ะ ทั้ง หลุมแอ่งกระทะ ,หลุมกล่อง และ หลุมจิกโดยผลการรักษาขึ้นกับชนิดของหลุม ความรุนแรงของหลุม ถ้าเป็นหลุมชนิดแอ่งกระทะและกล่อง จะผลลัพธ์การรักษาดีกว่า แต่สำหรับหลุมชนิดจิก ซึ่งเป็นชนิดที่รักษายาก อาจต้องใช้จำนวนครั้งในการรักษามากกว่าและรักษาร่วมกับวิธีอื่นควบคู่กันค่ะ Venus Viva MD สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย เหมาะกับผู้ที่มีปัญหา • หลุมสิวทุกชนิด (Rolling scar, Box scar, Ice pick scar) • รูขุมขนกว้าง (Enlarged pore) • ผิวไม่เรียบเนียน (Uneven skin texture) • ริ้วรอยชั้นผิวหนัง (Deep wrinkle and fine line) • รอยแตกลาย (Striae) • รอยแดง หน้าแดง (Rosacea) • สีผิวไม่สม่ำเสมอ (Dyschromia) จุดเด่นของ Venus Viva MD • ผ่านการรับรองจาก US FDA(อย.อเมริกา) และ Thai FDA(อย.ไทย) ทำให้มั่นใจเรื่องประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ และความปลอดภัย
เครื่อง Ultraformer III หรือเครื่องสำหรับการทำ (High Intensity Focus Ultrasound) เป็นอุปกรณ์คลื่นอัลตราซาวนด์ที่มีความเข้มสูงไม่ทำร้ายชั้นผิวของเรา ช่วยให้ความร้อนกับชั้นผิวหนังเฉพาะจุด และมีความแม่นยำสูง เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน กระชับผิวให้กลับมาเนียน ใบหน้าดูสดใส ไร้ริ้วรอย เป็นหนึ่งในนวัตกรรม High Intensity Focus ultrasound ที่เสริมความงามการใช้เครื่องอัลตราซาวด์ มีความปลอดภัยสูงและไม่มีแผลหลังจากการรักษาและนอกจากนี้ Ultraformer III ยังถือว่าเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพดีมาก เพราะผลลัพธ์ดีกว่า Hifu ทั่วไป และที่สำคัญคือ เจ็บน้อยกว่า ค่ะ . Ultraformer III ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง - ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย - ลดริ้วรอยทำให้ผิวหนังกระชับและเต่งตึงยิ่งขึ้น - ยกกระชับผิวให้ผิวดูอ่อนเยาว์ - กระชับสัดส่วนบริเวณใบหน้าให้ดูเรียวเล็กลง - กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน - ผิวมีสุขภาพดีเหมาะสำหรับการทำบริเวณ ร่องแก้ม ใต้ตา เหนียง กรอบหน้า . Ultraformer III เหมาะกับใคร เหมาะกับผู้ที่มีความรู้สึกว่าบริเวณผิวเกิดความหย่อนคล้อยและอยากยกกระชับใบหน้า โดยไม่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด และกลุ่มอื่นๆ ดังนี้ Ultraformer III เหมาะกับใคร - ผู้ที่มีผิวไม่กระชับ มีความหย่อนคล้อยทั้งใบหน้า - เหนียงและลำคอ ดูแก่กว่าวัย - ผู้ที่มีที่มีรูขุมขนกว้าง ไม่กระชับ - ผู้ที่มีร่องแก้มลึก มุมปากตก - ผู้ที่ต้องการลดเหนียง เก็บกรอบหน้า . Ultraformer III ใช้กี่ช็อตถึงเห็นผล จำนวนช็อตของ Ultraformer III นั้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับบริเวณถ้าต้องการทำให้เห็นผลได้ชัด เช่น - ทั่วใบหน้า ประมาณ 500 - 600 ช็อต - รอบดวงตา ประมาณ 100 - 200 ช็อต - แก้ม ประมาณ 300 - 500 ช็อต - เหนียง ประมาณ 150 - 300 ช็อต - ลำคอ ประมาณ 150 - 300 ช็อต - ร่องแก้ม: ประมาณ 50 - 100 ช็อต และเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ความแตกต่างชัดเจน ควรทำอย่างต่อเนื่อง 2 - 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของและวิธีการดูแลผิวเป็นปัจจัยร่วมด้วยค่ะ
กำจัดไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ให้หายขาดไม่กลับมาเป็นซ้ำที่เดิมอีก ถึงบางคนจะมองว่าไฝ ขี้แมลงวันนั้นมีเสน่ห์ แต่ถ้าขึ้นผิดจุดก็สามารถทำให้เราเสียความมั่นใจลงไปได้ หลายคนจึงหาวิธีและพยายามที่จะเอามันออก กระเนื้อที่สามารถขึ้นได้กับทุกตำแหน่งของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดด ทำให้หลายคนที่เจอปัญหาเหล่านี้อยู่ เลยพยายามหาวิธีการกำจัดไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อออกเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง โชคดีที่ปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยอย่างเลเซอร์มาใช้แก้ไขอย่างได้ผล นั่นก็คือการจี้ออกด้วยเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ หรือ CO2 Laser ไฝและขี้แมลงวันเกิดจากการที่มี melanocytes หรือเซลล์สร้างเม็ดสีรวมตัวกันมากเกินไปบนผิวหนัง โดยไฝเป็นตุ่มนูน ส่วนขี้แมลงวันเป็นผิวราบ คนส่วนใหญ่มีไฝหรือขี้แมลงวันบนผิวหนังอยู่แล้วตั้งแต่แรกเกิด แต่ก็มีหลายคนที่อาจมีอาการเกิดขึ้นในภายหลัง โดยที่เกิดขึ้นที่ตำแหน่งใดก็ได้บนผิวหนัง ลักษณะมักมีสีเพียงสีเดียว เช่น น้ำตาลเข้ม ดำ โดยอาจมีลักษณะกลมหรือรี และเป็นได้ทั้งแบบแบนหรือนูนขึ้นมาค่ะ ไฝและขี้แมลงวัน โดยทั่วไปเป็นสิ่งที่ไม่ได้อันตราย แต่เราอาจต้องคอยสังเกตอาการที่บ่งบอกว่ามีความผิดปกติ มีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ดังนี้ค่ะ ขนาด สี รูปร่าง เนื้อของไฝ หรือความรู้สึกเมื่อสัมผัสมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ไฝเม็ดเดียวกันมีหลายเฉดสี ขอบไฝมีความผิดปกติ มีสีผิดปกติเกิดขึ้นบนผิวหนังรอบๆ มีพื้นผิวผิดปกติ เช่น หนังลอก แตก มีของเหลวไหลเยิ้ม มีเลือดออก มีแผลเปิด และเจ็บปวด แต่ไม่หายเอง เกิดปุ่มนูนมีลักษณะแข็ง คันและเจ็บเมื่อสัมผัส ถ้าพบว่ามีอาการแบบด้านบนควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติมค่ะ การรักษาไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อด้วย CO2 laser ที่กัญวราคลินิก CO2 Laser เป็นเลเซอร์ที่ผลิตแสงที่มีความยาวช่วงคลื่น 10,600 nm. โดยจะกระตุ้นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้คายพลังงานออกมาในรูปแบบแสง ใช้ในการรักษาปัญหาผิวพรรณต่างๆ ได้ค่ะ อาทิเช่น ไฝ ขี้แมลงวัน ติ่งเนื้อ กระเนื้อ สิวหิน สิวข้าวสาร สิวอุดตัน และต่อมไขมันโต ซึ่งในการรักษาด้วยเลเซอร์ ในบางคนที่มีปัญหาผิวหลายๆ จุด เช่น มีไฝหลายเม็ด ไฝเม็ดใหญ่ หรือมีกระเนื้อจำนวนมาก ก็สามารถยิงเลเซอร์ในคราวเดียวได้ การรักษาปัญหาผิวด้วยเลเซอร์ CO2 ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และมีความปลอดภัย โอกาสเป็นแผลเป็นต่ำ โดยต้องอยู่ภายใต้การรักษา
Mini Thermage คือเทคโนโลยีใหม่จากเกาหลีที่ส่งคลื่นความถี่วิทยุไปที่ชั้นผิวหนังแท้โดยเฉพาะค่ะ ไม่ทำลายเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง โดยเข้าไปทำให้เกิดอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างเหมาะสมแล้วกระตุ้นให้ร่างกายเรามีการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังขึ้นมา แล้วทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น ผิวตึงขึ้น รูขุมขนน้อยลง ริ้วรอยน้อยลงค่ะ ซึ่งถ้าเปรียบผิวหนังเรากับรถยนต์ คือการขับรถยนต์ ระยะเวลาผ่านไปน้ำมันรถหมดจำเป็นต้องเติมน้ำมัน ส่วนผิวหนังเราเช่นกันค่ะระยะเวลาผ่านไป คอลลาเจนจะเริ่มลดลงเรื่อยๆ ไม่มีทางที่ร่างกายจะสร้างขึ้นมาเอง เราจึงควรเติมคอลลาเจนให้ผิวด้วย Mini Thermage เพื่อให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ยังอยู่กับเราไปอีกนานๆ Mini Thermage เหมาะกับใครบ้าง เหมาะกับทุกคนที่มีอาการของคอลลาเจนผิวลดลง ได้แก่ ใบหน้าหย่อนคล้อย สังเกตจากผิวแนวขอบขากรรไกรหย่อน กรอบหน้าไม่ชัด ร่องแก้มชัด และใต้คางหย่อน (แต่ถ้าคนที่หน้าหย่อนและมีไขมันมากๆ ร่วมด้วย หมอแนะนำให้สลายไขมันก่อน เพื่อให้เห็นผลชัดเจนค่ะ) ผิวหน้าไม่ตึงกระชับ รูขุมขนกว้าง มีริ้วรอยเล็กๆ มีริ้วรอยรอบดวงตา มีริ้วรอยที่คอ ทุกคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป แล้วต้องการดูแลตัวเองให้ใบหน้าอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ขั้นตอนการทำและความรู้สึกขณะทำ ขั้นตอนการทำเริ่มจากทำความสะอาดผิวหน้าตามปกติ และไม่ต้องแปะยาชาค่ะ หลังจากนั้นหมอจะมีการลงเจลสื่อนำ แล้วเริ่มยิงเครื่องมือโดยใช้หัวยิงแนบที่ผิว ขณะทำจะรู้สึกอุ่นๆ พอทำหลายรอบขึ้นจะเริ่มร้อนขึ้น แต่จะร้อนแบบทนได้ค่ะ คนไข้ส่วนใหญ่ที่ได้ทำแล้วจะชอบเพราะไม่เจ็บเลย นอนสบายเลยค่ะ โดยทั่วไปหมอจะใช้เวลายิงประมาน 20 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นกับบริเวณที่ยิงค่ะ เห็นผลเมื่อไร อยู่ได้นานแค่ไหน หลังทำเสร็จจะรู้สึกได้ทันทีว่าผิวตึงแน่นกระชับขึ้น จะเห็นประมาน 10-20% ค่ะ และหลังจากนั้นปฏิกิริยาในผิวจะเกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้น จะเริ่มเห็นผลชัดๆ ประมาณ 1-2 เดือนค่ะ ผลที่ได้จะอยู่ได้นาน 3-4 เดือน และสามารถทำซ้ำได้เรื่อยๆ ทุก 3-4 เดือน ช่วงแรกถ้าทำซ้ำทุก 1 เดือนก่อน ต่อเนื่อง 3 ครั้ง ผลจะชัดเจนมากค่ะ แล้วหลังจากนั้น แนะนำให้เมนเทนทุก 3-4 เดือนค่ะ การดูแลตัวเองหลังทำ ไม่ต้องดูแลหรือข้อควรระวังพิเศษใดๆ ทั้งก่อนหรือหลังการทำ เพราะสามารถทำได้ตามปกติ แต่เมื่อต้องออกแดดก็ควรทาครีมกันแดดร่วมด้วยทุกครั้ง และยังสามารถใช้ครีมบำรุงต่างๆ หรือแต่งหน้าได้ตามปกติทันที