"ผักคอส กรีนคอส หรือ ผักกาดโรเมน"(Cos Lettuce or Romaine Lettuce) ผักคอส หรือผักกาดโรเมนมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Lactuca sativa L. var. Longifolia ในประเทศอังกฤษมักจะเรียกว่า “คอส” แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกาอเมริกามักจะเรียกว่า “โรเมน” คาดกันว่ามีที่มาตั้งแต่สมัยอียิปต์ และชื่อ “คอส” นั้นถูกตั้งชื่อมาตั้งแต่สมัยกรีกโดยตั้งชื่อตามเกาะคอสของกรีกนั่นเอง จะมีลักษณะที่มีลักษณะไม่เหมือนผักสลัดประเภทอื่น ๆ เพราะมีใบสีเขียวเรียวยาวเป็นผักกรอบ ไม่ค่อยมีกลิ่นเหม็นเขียวของผักเท่าไหร่นัก ซึ่งคอสนั้นสามารถทนความร้อนได้ดีกว่าผักสลัดชนิดอื่นๆ ด้วยรสชาติผักที่เน้นหวานนิยมใช้ในเมนูซีซาร์สลัด ราวกับเป็นพระเอกของเมนูคู่กับเบคอนกรอบและมาพร้อมกับน้ำสลัดรสชาติกลมกล่อม โรยด้วยพาร์เมซานชีสขูดฝอยยกระดับความอร่อยให้สุขยิ่งขึ้นกว่าที่เคย บางครั้งชาวยุโรปนิยมตุ๋นทำซุป สำหรับผักคอสขึ้นชื่อว่าเป็นผักที่ช่วยในระบบขับถ่ายเช่นเคย และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ
"บัตเตอร์เฮด Butter Head" "บัตเตอร์เฮด" อาจเรียนกว่าผักกาดบอสตัน หรือ บิบ ในอเมริกา เป็นผักสลัดที่คงคุณค่าโภชนาการ พร้อมกับความกรอบ ช่วยให้ผู้รับประทานรู้สึกสดชื่น และรีเฟรชทุกครั้งที่ได้ลิ้มลอง ถึงจะมีสีเขียวใกล้เคียงกับกรีนโอ๊คแต่สังเกตง่าย ๆ บัตเตอร์เฮดจะกลมมนกว่า อัดแน่นกว่า มีพุ่มที่สวยงามคล้ายกลีบดอกไม้ เป็นผักสลัดที่ทำได้หลายเมนูอร่อย เช่น รับประทานสด ๆ สามารถใส่ในแฮมเบอร์เกอร์ สามารถผัดน้ำมันหอยกินร้อน ๆ ก็อร่อยไปอีกแบบ หรือจะนาบกับกะทะรับประทานร่วมกับเนื้อวัวย่างหอม ๆ เป็นสลัดจานเด็ด
"กรีนโอ๊ค Green Oak" กรีนโอ๊ค มีชื่อทางวิทยาศาตร์ว่า Lactuca scariola var. sativa L. scariola var. integrata L. scariola var. Integrifolia โดยกรีนโอ๊คอยู่ใน Family Asteraceae กรีนโอ๊คเป็นผักสลัดสีเขียวสด มีใบหยักสีเขียวตลอดทั้งใบและก้าน มีความโดดเด่นและรสชาติใกล้เคียงกับเรดโอ้ค มีรสชาติหวาน กรอบ มีลักษณะเป็นพุ่ม ผักสลัดประเภทนี้เข้ากับน้ำสลัด และอาหารจานอื่น ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม มีกากใยช่วยให้ย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี กรีนโอ๊คมีวิตามินบี วิตามินซี และไฟเบอร์สูงช่วยเรื่องท้องผูก บำรุงสายตา กล้ามเนื้อ และเส้นผมได้เป็นอย่างดี มีแคลอรี่ที่ต่ำมากๆแถมยังรับประทานง่าย ล้างให้สะอาดเด็ดใบจัดลงจาน พร้อมกับราดน้ำสลัด หรือรับประทานสด ๆ ได้ตามชอบ
"เรดโอ๊ค Red Oak" พูดถึงผักสลัดยอดฮิตคงหนีไม่พ้น "เรดโอ๊ค" เรดโอ๊คนั้นเป็นผักสลัดที่มีการบริโภคกันมาหลายร้อยปี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Lactuca sativa มีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศษ มีการอ้างอิงในหนังสือตั้งแต่ปี ค.ศ. 1699 ซึ่งต่อมาได้ มีการเริ่มขายในท้องตลาดในปี ค.ศ. 1771 และขยายสู่ประเทศอังกฤษในช่วงคริสตศควรรษที่ 18 เลยทีเดียว ซึ่งเรดโอ๊คมีวิตามินและสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น วิตามินเอ วิตามินซี โฟเลต และธาตุเหล็ก สีของเรดโอ๊คจะมีสีแดงเข้มเบอร์กันดีบริเวณขอบใบหยัก ๆ มีสีเขียวแซมบ้าง เรดโอ๊คเป็นผักที่มีกากใยสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ขับถ่ายยากหรือมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย การรับประทานเรดโอ๊คจะช่วยได้เป็นอย่างดี เรดโอ๊คนั้นไม่เหมาะกับการปรุงร้อน เหมาะสำหรับการทานสดมากกว่า เช่น ใช้ปรุงเมนูสลัด หรือทานคู่กับเมนูเนื้อหรือรับประทานสด ๆ ร่วมกับเมนูอาหารจานโปรดจะอร่อยกว่า
ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก (Frillice Ice Berg Lettuce) Frillice_Ice_Berg ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก เป็นสลัดที่นิยมมากในสหรัฐอเมริกาและเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทยในระยะหลังมานี้ ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก มีใบสีเขียวอ่อนและสีเขียวเข้ม มีลักษณะอวบ กรอบ แปลกตา ลักษณะเป็นพุ่ม ฝอยหยิก ๆ เข้าหากัน โคนลำต้นตรงมีความชุ่มน้ำเป็นผักตระกูลสลัดที่สามารถปลูกในดิน หรือปลูกแบบไฮโดรโปรนิกส์ก็ได้อายุประมาณ 40-50 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งสลัดฟิลเลย์ไอซ์เบิร์กนั้นค่อนข้างไม่ทนความร้อนจึงเหี่ยวเฉาง่าย นิยมทานสด ๆ อุดมไปด้วยสารอาหารเช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอื่น ๆ อีกเพียบ ซึ่งมีประโยชน์ช่วยบำรุงตำ แก้ปวด ขับเสมหะ ป้องกันมะเร็ง บำรุงร่างกาย ช่วยขับน้ำนมจึงดีกับคุณแม่มือใหม่ สร้างเม็ดเลือด ช่วยลดท้องอืดท้องเฟ้อ ขับถ่ายได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
เรดคอรัล (Red coral) เรดคอรัลจะมีลักษณะใบที่หยัก และฟูมากกว่าเรดโอ๊ก มองไปมองมาก็คล้ายๆ กับปะการัง รสชาติจะออกหวานนิดๆ กรอบหน่อยๆ เรดคอรัลมีปริมาณกากใยอาหารที่สูง จึงช่วยในเรื่องของการขับถ่ายของเสีย ทั้งช่วยล้างผนังลำไส้ กำจัดไขมัน ต้านอนุมูลิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ ทั้งยังให้วิตามินซีสูง ช่วยป้องกันหวัด นอกจากนั้น สารอาหารที่มีประโยชน์มากมายของเรดคอรัล ยังช่วยป้องกันโรคโลหิตจางอีกด้วย เรดคอรัลเหมาะกับการนำไปเพิ่มสีสันให้จานสลัดดูน่ากินขึ้น
เบบี้คอส คือผักรสหวานยอดฮิตที่มักใส่อยู่ในจานสลัด บางคนก็เรียกผักกาดหวาน เพราะใบคอสจะหวานกรอบและฉ่ำน้ำ เมื่ออายุได้ประมาณ 45-50 วันก็จะถูกเก็บเกี่ยวมาบริโภค การเก็บในช่วงเวลาที่ยังเบบี้จึงทำให้ใบของเบบี้คอสไม่มีรสขม ทานง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับผักอื่นๆ ในจานสลัด คุณประโยชน์ที่สำคัญของเบบี้คอส คืออุดมด้วยวิตามินเอ ซี เค แมกนีเซียม โครเมียม และสารซีแซนทิน (Zeaxanthin) สารประกอบของลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันและรักษาโรคที่เกี่ยวกับสายตา และลดความเสื่อมของประสาทตาในผู้สูงอายุ
เคลใบหยิก พร้อมส่งถึงหน้าบ้านคุณมาแล้วค่ะ ต้นกล้าเคลอายุ 45 วัน ต้นกล้าแข็งแรงพร้อมให้มือใหม่ได้ทดลองปลูก มีคู่มือการดูแลให้ในกล่องพร้อมค่ะ - กระถางละ 120 บาท ✅ ผักเคล (Kale) - เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ ซึ่งหลายคนต่างยกให้ผักเคลเป็น Superfood เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระมากมายอย่าง โอเมก้า 3 แมกนีเซียม แคลเซียม เหล็ก โซเดียม โพแทสเซียม วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค และวิตามินบี 6 จึงเป็นผักที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย 😊 วิธีการปลูก : พอได้รับต้นกล้าแล้ว ลูกค้าแกะออกจากกล่อง พักไว้ที่ร่ม หรือแดดรำไร 1 วัน เลี้ยงในกระถางเดิมก่อน ประมาณ 3-4 วัน ลูกค้าสามารถย้ายลงกระถาง 10-12 นิ้วได้เลยค่ะ ต้นเขาจะโตขึ้นเรื่อย ๆ หรือถ้าจะปลูกลงดินเลยก็ได้ แต่อาจจะต้องระวังพวกหอยทาก หรือ หอยเจดีย์ การให้น้ำ: ปกติให้น้ำเช้า- เย็น ถ้าความชื้นในอากาศเยอะ วันที่ฟ้าครื้ม ฝนตกให้เหลือแค่ช่วงเช้าค่ะ การให้ปุ๋ย : สามารถให้ปุ๋ยคอก เช่น ปุ๋ยขี้วัว ปุ๋ยมูลไส้เดือน ตามความสะดวกของลูกค้า ทุกๆ 7-10 วัน น้ำหมักชีวภาพหรือฮอร์โมนบำรุง สามารถฉีดพ่นได้ ทุกๆ 2-3 วันค่ะ
ผักร็อกเก็ตหรืออารูกูล่า (Arugula) **จำหน่าย ขีดละ 30 บาท** ผักร็อกเก็ตหรืออารูกูล่า (Arugula) เป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเผ็ดปนขม มีกลิ่นฉุน นิยมนำมารับประทานสด โดยพบได้บ่อยในเมนูสลัดและอาหารตะวันตก กล่าวกันว่าผักร็อกเก็ตมีสารอาหารหลายชนิดที่ช่วยบำรุงสุขภาพของดวงตาและหัวใจ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคอื่น ๆ อารูกูล่าประกอบได้ด้วยแร่ธาตุ สารอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโฟเลต ลูทีน ซีแซนทีน ใยอาหาร และแคโรทีนอยด์ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ล้วนมีงานวิจัยที่แสดงถึงคุณสมบัติด้านการบำรุงสุขภาพและป้องกันโรค