Kanwaraclinic

#คลินิกรักษาสิว กัญวราคลินิก

เราทราบดีว่า ปัญหาสิว เป็นเรื่องกวนใจของหลายๆคน
เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการ รักษาสิว และมีโปรแกรมรักษาสิว ที่คัดสรรให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เช่น คอร์สรักษาสิว 6 ขั้นตอน เลเซอร์หน้าใส เลเซอร์ลดรอยดำ รอยแดง รอยสิว ฉีดสิวและกดสิว
ไม่เจ็บ หรือ เจ็บน้อยมาก เบาจนแทบไม่รู้สึก เป็นต้น

สิว คือ ความผิดปกติของผิวหนังที่พบได้บ่อยในวัยหนุ่มสาว
บางครั้งมีอาการเพียงเล็กน้อยและไม่จำเป็นต้องรักษา
แต่ ส่วนใหญ่จะเป็น มาก และ เป็นในระยะเวลานาน
ส่งผลให้เกิดเป็น รอยดำสิว รอยแผลเป็น ที่อาจทำให้ส่งผลเป็นตราบาปบนใบหน้าไปตลอด

เรื่อง สิว วัยรุ่นมักจะเป็นมาก และมันส่งผลถึงบุคลิกภาพได้
วัยรุ่นบางส่วนมีบุคลิกภาพที่ไม่ดี สูญเสียความมั่นใจในตนเอง
ไม่กล้าเข้าสังคม ไม่กล้าแสดงออก จากเรื่องเล็กๆที่เรียกว่า สิว นี่เอง

คลินิกรักษาสิว รอยสิว กัญวราคลินิก เรามีความเชี่ยวชาญในการรักษาสิวทุกประเภท รวมถึง รักษารอยสิว ทั้ง รอยแดง รอยดำ ด้วยขั้นตอน เฉพาะบุคคล และ มีอุปกรณ์ในการรักษาสิวครบครันได้มาตรฐาน เครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก ทำให้ผลลัพธ์การรักษาดีขึ้นในทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับการรักษา

" สิว ไม่ใช่ เรื่องน่ากลัว ถ้าได้รับการรักษาที่ตรงจุดและเหมาะกับตัวคุณ "

เมื่อเป็นสิวแล้ว ต้องเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการ
ปัจจุบัน วิธีการรักษาสิว มีตั้งแต่การใช้ยาทา รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง การฉีดสิว และ การรักษาด้วยเลเซอร์

การรักษาสิว เบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่หากมีอาการรุนแรง มีสิว จำนวนมาก การเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ สิวหายขาด ลดโอกาสเกิดหลุมสิวและลดรอยสิวได้มากกว่า
อย่างไรก็ตาม การรักษาสิว ลดรอยสิว เป็นการรักษาแบบเฉพาะตัวบุคคล เพราะผิวแต่ละคนอาจมีการตอบสนองแตกต่างกัน

ดังนั้น การรักษาสิว ลดรอยสิวที่ดีที่สุด ควรเริ่มต้นจากการไปปรึกษาแพทย์ ผู้ชำนาญการด้านผิวหนังที่สามารถแนะนำ เรื่อง วิธีการรักษาที่เหมาะกับสภาพผิวของเราได้อย่างถูกต้อง

คลินิกรักษาสิวที่ไหนดี ต้องมีใบอนุญาตดำเนินการอย่างถูกต้อง สะอาดปลอดภัย มีตัวยาที่ผ่าน อ.ย. ถูกต้อง อุปกรณ์ทางการแพทย์ต้องได้มาตรฐาน มีการพูดถึง บอกต่อ หรือ รีวิวจากผู้เข้ารับบริการ

เราสามารถค้นหาดูได้ ในโลกออนไลน์

สำหรับ กัญวราคลินิก สามารถดูรีวิวผลลัพธ์จากการักษาและคำชื่นชมจากผู้เข้ารับบริการได้ทั้งใน Google Map
https://g.page/kanwara_clinic

และ Facebook Page
https://facebook.com/kanwaraclinic

#kanwaraclinic #กัญวราคลินิก #คลินิกรักษาสิว #สิว #รักษาสิวที่ไหนดี

กัญวราคลินิก

เป็นคลินิกที่ให้บริการดูแลรักษาปัญหาด้านผิวพรรณความงาม
เราเปิดให้บริการมาตั้งแต่ ปี พศ.2558 โดยแพทย์หญิงกัญวรา นวอนุรักษ์(หมอเหมี่ยว) ด้วยแนวคิดต้องการให้คนไข้ทุกคนดูดีในแบบของตัวเอง ใช้เครื่องมือ​และผลิตภัณฑ์​ที่มีมาตรฐาน​ปลอดภัย​ ดูแลโดยแพทย์​ผู้เชี่ยวชาญ​ที่มีประสบการณ์​ ภายใต้การดูแลบริการที่เป็​นกันเอง อบอุ่น สบายใจ​ ในราคาที่เอื้อมถึงได้

เราพร้อมที่จะดูแลทุกปัญหา​ความงามของท่าน โดยทุกขั้นตอนของการบริการจะมีแพทย์​และผู้เชี่ยวชาญ​ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจสูงสุด

มาเด คอลลาเจน​ ถือเป็นหนึ่งในกลุ่ม เมโสหน้าใส ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบั​น โดยทั่วๆไปมักจะเป็นที่รู้จักกัน​ว่า made collagen​ ที่จะเด่นในเรื่องช่วยทำให้ ใบหน้าดูใสขึ้น ฟื้นฟูผิวที่แพ้ง่าย โดนอะไรก็แพ้ไปหมด ให้กลับมาแข็งแรง ขับสารพิษที่เกิดตกค้างภายในผิว และยังช่วยลดสิวอักเสบ สิวผด โดยความโดดเด่นของการรักษาลักษณะนี้จึงเหมาะกับคนทุกวัย ตั้งแต่วัยรุ่นที่เน้นเรื่องสิว ถึง ผู้ที่มีอายุ​มากขึ้นแล้วต้องการรักษาโดยที่เน้นเรื่องชะลอวัยให้ผิวด้วย

ส่วนประกอบ มาเด้ คอลลาเจน คือ สารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิด มีทั้ง วิตามิน แร่ธาตุ เอนไซม์ ต่างๆ

ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่แข็งแรง มีผดผื่น มีสิว

โดย มาเด้ คอลลาเจนจะ ปรับผิวให้แข็งแรงขึ้น จึงช่วยเสริมการรักษา ทำให้ปัญหาผิวแพ้ง่าย มีผดผื่น เป็นสิวเรื้อรัง สิวจากแพ้ง่าย ดีขึ้น
หลังทำ มาเด้ คอลลาเจน 16 จุด ไป ผิวหน้าที่สากๆ จากการมีสิว จะดูเรียบขึ้น สิวยุบลง ผดผื่นน้อยลง ผิวดูใส ยิ่งสำหรับในคนที่ปัญหาผิวไม่มากแล้วล่ะก็ จะรู้สึกเห็นผลได้รวดเร็ว บางรายอาจรู้สึกได้ประมาณ 3-7 วัน หลังจากที่ฉีดไปในครั้งแรกค่ะ แต่สำหรับคนที่มีปัญหาผิวเยอะหน่อย ต้องฉีดหลายครั้งมากขึ้น ถึงจะเริ่มเห็นผลชัดเจน อย่างน้อยๆต้องทำการรักษาไป 3-5 ครั้ง ค่ะ


ผู้ที่เน้นเรื่องชะลอริ้วรอยเพิ่มความสดใสให้ผิวหน้า

เนื่องจาก ตัวยามีส่วนช่วย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้กับผิว จึงทำให้ผิวหน้าใสขึ้น รูขุมขนกระชับ
โดยที่ผลลัพธ์จะปรากฎให้เห็น เร็วหรือ ช้า แค่ไหน ขึ้นอยู่กับ พื้นฐานผิว ตอนก่อนฉีดเป็นหลักค่ะ โดยปกติ ถ้าเป็นผู้ที่มีอายุน้อย เซลล์ผิวยังทำงานได้ดีอยู่ การฟื้นฟูก็จะเกิดได้รวดเร็ว และส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลในครั้งที่ 1 - 2 ของการบำบัดได้ค่ะ แต่ถ้าในคนที่อายุมาก จะมีการเสื่อมของเซลล์ผิวมาก จำนวนเซลล์ผิว และ ปริมาณของคอลลาเจนในผิวก็จะมีน้อย ทำให้การฟื้นฟูผิวเกิดขึ้นช้าพอสมควร อาจใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 5 ครั้งค่ะ

กัญวราคลินิก คลินิกรักษาสิว

สิว คือ โรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นความผิดปกติที่ต่อมไขมันภายในผิว ผลิตไขมันตามธรรมชาติมากเกินความจำเป็น ทำให้รูขุมขนอุดตันจนทำให้เกิดเป็นตุ่มเล็กๆ บางครั้งมีไตสีขาวๆ อยู่ข้างใน

นอกจากนั้น ถ้ามีแบคทีเรียอยู่ตรงส่วนนั้นมากเกินไปด้วย ก็จะยิ่งทำให้เกิดเป็น สิว เป็นจำนวนมาก และ กลายเป็น สิวอักเสบ ในความเป็นจริง สิว สามารถขึ้นได้ทุกที่ในร่างกาย แต่จะพบมากที่สุดบริเวณ ใบหน้า คอ ไหล่ และ หลัง

สิวเกิดขึ้นได้อย่างไร รู้ทัน สาเหตุของ การเกิดสิว
ในวัยรุ่น ระบบฮอร์โมน เกิดการเปลี่ยน การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนแอนโดรเจนในช่วงวัยรุ่น ส่งผลต่อ ต่อมไขมันที่ผิวหนัง ที่บางครั้งจะผลิตไขมันมากขึ้นจนเกินความจำเป็น ทำให้ไขมันเกิดการอุดตันบนผิวหนัง ในการเกิดสิวนั้น สิ่งสำคัญ คือ การเกิดหัวสิว ที่เรียกว่า โคมีโดน ในท่อของต่อมน้ำมันการเกิดหัวสิว

นอกจากขันไมในชั้นผิว ยังอาจมีสาเหตุจาก แบคทีเรีย การที่ ต่อมไขมัน สร้างน้ำมันออกมากๆ ทำให้เป็นที่สะสมของ แบคทีเรีย P.acne ปัจจัยหลักของ การเกิดสิว การจับตัวของชั้นหนังกำพร้า
ชั้นขี้ไคลบริเวณท่อน้ำมัน เกิดเป็น หัวสิว

อีกหนึ่งปัญหาที่ส่งผลให้เกิดสิว คือ กรรมพันธ์ ถ้าพ่อแม่มีประวัติ เป็นสิวมากๆในช่วงวัยรุ่น ลูกก็มีแนวโน้มที่จะ เป็นสิวมาก เช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดสิวโดยตรง เช่น เรื่องการบริโภคอาหารบางอย่าง การรับประทานยาบางประเภท เช่น ฮอร์โมน ยาคุมกำเนิด รับประทานอาหารที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ขนมปัง ของหวานต่างๆ หรือ การใช้เครื่องสำอางที่ใช้อาจก่อให้เกิด รูขุมขนอุดตัน

เมื่อมีพฤติกรรมเหล่านี้ และไม่ได้มีการปรับปรุงแก้ไข อาจทำให้อาการสิวยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นได้

สิว จะหาย เองได้ไหม ?
โดยปกติ สิว ที่พบในวัยรุ่น ถ้าเป็นไม่มาก จะสามารถหายไปเองได้ แต่ถ้าเป็นมากๆอาจจะเหลือ รอยแผลเป็นอยู่

สิวอักเสบ ยิ่งมีความเสี่ยงในการฝากร่องรอยแผลได้ หลังจากที่สิวหายไป

รอยสิว ทั่วๆไป สามารถรักษาให้หายหรือจางไปได้ เพราะปกติ รอยสิว จะค่อยๆ เลือนรางหายตามกาลเวลา แต่ รอยสิวที่ทำให้เกิดเป็น หลุมลึก อาจมีการรักษาที่ยากและซับซ้อนมากกว่า และ ต้องใช้เวลาในการรักษา

สิว ป้องกันได้อย่างไร
การป้องกัน การเกิดสิว ให้ได้ประสิทธิภาพ คือ ต้องล้างหน้าให้สะอาด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ

สิวเสตียรอยด์ คือ ภาวะที่มีอาการ สิว เกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ โดยปกติจะเกิดในผู้ที่ได้รับ สารเสตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน มาถึงตรงนี้ คงเกิดคำถามว่า แล้ว สเตียรอยด์ คืออะไร ก่อนอื่น หมอจะอธิบายเกี่ยวกับ การใช้ ยาเสตียรอยด์ ในวงการแพทย์ก่อนนะคะ

เสตียรอยด์ คือ ชื่อสั้นๆของ ยากลุ่ม corticosteroid ซึ่งยากลุ่มนี้ จะมีฤทธิ์ ต้านการอักเสบ ได้ทั่วร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า วงการแพทย์ นำมาใช้ประโยชน์ในการรักษาอาการอักเสบ หรือ กดภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติมากมาย

อาการที่เกิดจากการใช้ ครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์

ผิว ติด สเตียรอยด์

การใช้ สเตียรอยด์สำหรับทาผิวต่อเนื่อง เป็นเวลานานๆ ให้สังเกตอาการที่บ่งบอกว่า ต้องใช้สเตียรอยด์อยู่เรื่อยๆ เพื่อคงการรักษาสภาพไว้ ไม่สามารถหยุดได้ พอหยุดแล้ว จะมีอาการต่างๆกลับมา สังเกตดีๆช่วงที่หยุด จะมีอาการผิวแดงๆ คล้ายไหม้แดด ผิวแห้งลอก ระคายเคืองง่าย ผิวหนังอักเสบ

เป็น สิว สเตียรอยด์

สิวสเตียรอยด์ คือ ภาวะของกลุ่มอาการทางผิวหนังที่มีอาการ เป็นผื่นคล้ายสิว ภาษาอังกฤษเรียกกลุ่มอาการแบบนี้ว่า Acneiform Eruption ซึ่งกลุ่มอาการนี้ จะเรียกว่าอาการสิวอย่างเดียวก็ไม่ใช่ค่ะ เพราะ เป็นกลุ่มอาการที่มีทั้ง เป็นสิวแบบสิวแท้(Acne Vulgaris) รวมถึง อาการอื่นๆที่คล้ายสิว โดยมีสาเหตุมาจากการใช้สเตียรอยด์แบบทาเฉพาะที่ โดยปริมาณสูงในช่วงสั้นๆ หรืออาจปริมาณน้อยแต่ระยะเวลานาน ก็ได้

อาการอื่นๆที่คล้ายสิว ได้แก่ รูขุมขนอักเสบ(Malazzesia Folliculitis) และ ภาวะโรซาเชีย(Rosacea)
จะเห็นว่ากลุ่มอาการจากการใช้สเตียรอยด์นี้ มีหลายแบบทั้งสิวแท้ และ อาการที่คล้ายสิว แต่ทั้งหมดนี้เรารวมๆเรียกให้เข้าใจง่ายว่า สิวสเตียรอยด์
สิวเสตียรอยด์ อาจเกิดได้ ในช่วงที่กำลังใช้สเตียรอยด์อยู่ หรือ เกิดหลังจากหยุดสเตียรอยด์ ไปแล้วก็ได้

การรักษาสิวโดยวิธีทางการแพทย์ มีหลายวิธี ขึ้นกับสาเหตุและความรุนแรงของคนไข้แต่ละคน ได้แก่

ยาทา ทั้งกลุ่มที่ละลายหัวสิว ฆ่าเชื้อสิว
ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เหมาะกับสภาพผิว ได้แก่ สบู่ล้างหน้า ครีมบำรุง ครีมกันแดด
ยารับประทาน มีทั้ง ยาลดการทำงานของต่อมไขมัน ยาฆ่าเชื้อต่างๆ
การรักษาเสริม เพื่อให้มีประสิทธิภาพ เห็นผลเร็วขึ้น เช่น กดสิว ทรีทเมนท์ลดสิว เลเซอร์ ฉายแสง
ซึ่งแนวทางการดูแลของแพทย์แต่ละที่อาจมีแตกต่างกันไป ด้วยค่ะ

จะมีการรักษา 2 กลุ่ม ที่หมอแนะนำว่า สามารถรักษาร่วมกันได้ เพื่อให้เห็นผลได้เร็ว และชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ

1. การรักษาโดยใช้ยา
2. โปรแกรมรักษาสิว

การรักษาสิวที่หลังโดยการใช้ยา

การใช้ยา คือ สิ่งที่เป็นพื้นฐานของ การรักษาสิวที่หลัง โดยหมอจะเป็นผู้ประเมินสาเหตุของการเกิดสิว และจ่ายยาตามสภาพปัญหาของแต่ละคนค่ะ ยาที่ใช้ก็จะมีดังนี้สบู่ ที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อรา ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และช่วยผลัดเซลล์ที่ตายเพื่อลดการอุดตัน เหมาะสมกับการฟอกทำความสะอาดหลังบริเวณที่เป็นสิวโดยเฉพาะ

โปรแกรมรักษาสิวที่หลังโดยเฉพาะ
ใช้รักษาควบคู่กับการใช้ยา เพื่อทำให้ประสิธิภาพในการรักษาดีขึ้น เห็นผลเร็วขึ้น ที่กัญวราคลินิก หมอออกแบบโปรแกรมมาเพื่อให้ตอบโจทย์ตรงกับกลไกของการเกิดสิวที่หลังโดยเฉพาะ และ รักษาอย่างครอบคลุม ทุกขั้นตอนมีการคัดสรรเลือกผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่นำมาใช้จนหมอมั่นใจว่า “ดีที่สุด” ดังนี้ค่ะ

1. ผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยนและละลายการอุดตัน ด้วย Acne peel สูตรเฉพาะกัญวราคลินิก ที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของ AHA และ Salicylic acid ช่วยละลายการอุดตันของรูขุมขน จะทำให้หัวสิวแห้ง และกดออกง่ายขึ้น พร้อมกับช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิวได้ด้วย

2. กดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ ด้วยเทคนิคกดละเอียด ไม่บวม ไม่อักเสบหลังกด เคลียร์สิวได้รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความต้องการอย่างเร่งด่วนในการเผยแผ่นหลัง

3. ฉายแสง LED เป็นการรักษาด้วยแสงเลเซอร์แบบความเข้มข้นต่ำ ไปที่บริเวณที่มีปัญหาสิว สามารถใช้ทำการรักษากับสิวบนแผ่นหลังได้ ซึ่งมีงานวิจัยว่า มันจะมีผลกับผิวถึงในระดับเซลล์ โดยทำให้เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบลดลง จึงทำให้สิวอักเสบที่มีการบวมแดงลดลง และยังช่วยฟื้นฟูผิวให้มีการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้แผลสิวหายเร็วขึ้นค่ะ จึงช่วยรักษาสิวและลดการเกิดรอยแดง โดยไม่มีผลข้างเคียงและไม่ต้องพักฟื้น เหมาะมากๆกับผู้ที่ต้องการ รักษาสิวที่แผ่นหลังอย่างเร่งด่วน

ที่ กัญวราคลินิก ใช้เครื่อง LED ยี่ห้อ Healite ที่มีมาตรฐาน ผ่านการรับรองจากอเมริกา (US FDA approved) และ อย.ไทย ต่างจากเครื่อง LED ทั่วๆไปในตลาด (ที่อาจแค่ผ่าน อย.ไทย เพียงอย่างเดียว) การได้รับมาตรฐาน อย.อเมริกา เป็นการการันตีเรื่องผลทางการแพทย์ที่มีงานวิจัยรองรับทั่วโลก ทำให้มั่นใจเรื่องประสิทธิภาพในการรักษาสิวได้แน่นอนค่ะ

4. Advance IPL

ปัญหารอยแดงรอยดำสิว รักษายังไงให้หาย

รอยแดงสิว หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Postinflammatory erythema (PIE) ค่ะ คือภาวะที่มีรอยจุดสีชมพูถึงแดง ตามหลังการเกิดสิว ซึ่งมักจะพบในคนที่ผิวค่อนข้างขาวหรือคนที่ผิวบาง สาเหตุเกิดจากที่เวลาเรามีสิวอักเสบจะมีเส้นเลือดฝอยคั่งบริเวณจุดอักเสบมากและพอสิวอักเสบหายแล้วก็ยังเหลือการอักเสบ บวม การขยายตัวของเส้นเลือดฝอยอยู่ จึงทำให้เห็นเป็นสีของเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังนั่นเองค่ะ

รอยดำสิว หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Postinflammatory Hyperpigmentation (PIH) ค่ะ คือ ภาวะที่มีรอยจุดสีน้ำตาลถึงสีดำ ตามหลังการเกิดสิว จะพบง่ายในคนสีผิวค่อนไปทางเข้มมากกว่าเพราะแนวโน้มผิวมีการผลิตเม็ดสีง่ายกว่าค่ะ และจุดที่สัมผัสแสงแดดจะทิ้งรอยคล้ำมากกว่าไม่โดนแดดค่ะ (หมอจึงมักบอกคนไข้ประจำว่าการทาครีมกันแดดสำคัญมาก) การเกิดรอยดำ จะเกิดในกรณีเป็นสิวอักเสบหรือจากการแกะสิวค่ะ สาเหตุเกิดจากการอักเสบไปกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสี (melanocyte) มีการผลิตเม็ดสี (melanin) ออกมาที่ชั้นผิวหนังมากขึ้นค่ะ

รอยแดงสิว​
โดยปกติถ้าเราไม่ได้รักษา​ รอยจะค่อยๆจางลงเองภายใน 2-6 เดือน แต่ถ้ารักษา​ก็จะทำให้รอยแดงจางลงเร็วขึ้นนะคะ ซึ่งการรักษา​ก็จะมีหลายวิธี หมอแนะนำว่าถ้าอยากจางเร็ว สามารถ​ใช้หลายวิธีร่วมกันได้ค่ะ

ใช้ยาทา ที่มีส่วนผสมของ Vitamin​ C , Niacinamide​(หรือ vitamin b3) จะมีส่วนช่วยให้รอยแดงค่อยๆจางลงได้ค่ะ
การใช้เครื่องมือที่ปล่อยพลังงาน เพื่อไปโฟกัสเจาะจงเส้นเลือดฝอย ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดฝอยน้อยลง จึงจะช่วย 2 เรื่องคือ ทำให้ช่วงที่เป็นสิวอักเสบจะแห้งเร็วจึงลดโอกาสการเกิดรอยแดง และ ถ้าสิวอักเสบหายแล้วรอยแดงจากสิวจะจางลงได้เร็วขึ้นได้ถึง 2-3 เท่าเลยค่ะ เทียบกับไม่ได้ใช้พลังงานแสง ซึ่งพลังงานแสงที่หมอกล่าวถึง มีหลายแบบค่ะ ได้แก่เลเซอร์ , Low Level Laser Therapy(ฉายแสง) , IPL

รอยดำสิว
โดยปกติถ้าไม่ได้รักษารอยดำจากสิวจะค่อยๆ จางเช่นกันค่ะ แต่ต้องใช้เวลา ถ้าต้องการให้จางเร็วขึ้นมีแนวทางสำหรับการรักษาหลากหลายค่ะ ได้แก่

การทาครีมกันแดดอย่างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้รอยดำเกิดมาก
ใช้ยาทา กลุ่ม Hydroquinone, azeleic acid, kojic, licorice, Niacinamide, Vit c
Chemical peel โดยใช้ AHA 20-70%, Salicylic acid(BHA) 20-30%, TCA หรือJessner peel
เครื่องมือหรือพลังงาน เช่น เลเซอร์