เรื่องประกันภัยSee more
“เพราะการสื่อสารที่ดี คือจุดเริ่มต้นของความเข้าใจ” มหาทรัพย์กฤษณ์ เน้นการสื่อสารที่ชัดเจน พร้อมนำเสนอทุกความสบายใจ และหยิบยื่นความคุ้มค่าให้กับทุกธุรกิจ คุณจะได้พบกับการทำประกันภัยที่โปร่งใสและชัดเจน อีกทั้งยังครอบคลุมกับทุกความต้องการของทุกธุรกิจที่มีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ทางทีมงานอธิบายข้อกำหนดและเงื่อนไขด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย และพร้อมที่จะตอบข้อสงสัยของลูกค้าในทันที ใส่ใจทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนก่อนการขาย ขั้นตอนการปิดการขาย หรือแม้แต่ขั้นตอนดูแลลูกค้าหลังการขายก็ตาม โดยหัวใจในการบริการของ มหาทรัพย์กฤษณ์ มุ่งเน้นไปที่ความสำคัญเหล่านี้ 1. เข้าใจธุรกิจ เพราะธุรกิจในแต่ละประเภท ต่างก็แบกรับความเสี่ยงที่จะต้องเจอแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทใดก็ตามควรที่จะมีประกันติดเอาไว้ เพื่อเป็นเครื่องป้องกันคุ้มภัย กับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต มหาทรัพย์กฤษณ์ พร้อมรับฟังความต้องการของลูกค้า และยินดีเสมอเมื่อลูกค้าแชร์ประสบการณ์ความเสี่ยงจากการทำงานที่เกิดขึ้นจริง เพื่อที่จะทำให้ทางทีมงานของเราเลือกกรมธรรม์ที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด หรือนำทุกความต้องการของลูกค้าไปปรับปรุงกรมธรรม์ฉบับใหม่ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม 2. เข้าใจความเสี่ยง ความเสี่ยงที่เกิดจากการทำงาน ล้วนแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของงานและอุตสาหกรรม ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทำงานโดยทั่วไป ได้แก่ อุบัติเหตุ การบาดเจ็บ การเจ็บป่วย ความรับผิดทางวิชาชีพ ความเสียหายต่อทรัพย์สิน และการสูญเสียรายได้เนื่องจากความพิการหรือการหยุดชะงักของธุรกิจ ทางทีมงานของเราพร้อมประเมินความเสี่ยงและจัดหากรมธรรม์ที่เหมาะสมซึ่งสามารถปรับให้เหมาะกับความต้องการของทุกคนได้ 3. เช็กความคุ้มครอง มหาทรัพย์กฤษณ์ เน้นบริการที่ใส่ใจลูกค้า ไม่ละเลยแม้ความต้องการเล็ก ๆ ยินดีหาแผนประกันที่เหมาะสมกับตัวธุรกิจของคุณมากที่สุด สำหรับคนส่วนใหญ่ การเลือกซื้อประกันภัยเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมักทำให้สับสน หากคุณไม่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจประกันภัย อาจเป็นเรื่องยากในการค้นหาความคุ้มครองต่าง ๆ และอาจทำให้เกิดความมึนงงในยามที่คุณ ทำความเข้าใจกับนโยบายโดยละเอียด ประกันบางกรมธรรม์มีราคาที่สูงมาก และถึงแม้จะมีราคาสูงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะกับความเสี่ยงที่คุณกำลังเจอ ดังนั้นทางทีมงานของเราที่มีความเข้าใจเรา
ความคุ้มครอง ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ร้านค้า และ สถานประกอบการ การประกันอัคคีภัยมักครอบคลุมประเด็น และความเสี่ยง ดังต่อไปนี้ โครงสร้างอาคาร: กรมธรรม์ประกันภัยให้ความคุ้มครองโครงสร้างทางกายภาพของทรัพย์สินที่เอาประกันภัย รวมถึงผนัง หลังคา ฐานราก และสิ่งติดตั้งถาวรอื่น ๆ (แต่กรมธรรม์บางฉบับอาจไม่ครอบคลุมการให้ความคุ้มครองฐานราก) ทรัพย์สินที่อยู่ในที่อยู่อาศัย ร้านค้า และ สถานประกอบการ: ประกันอัคคีภัยยังครอบคลุมถึงทรัพย์สินที่อยู่ภายในอาคารอีกด้วย เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า และของใช้ส่วนตัว และในบางกรมธรรม์อาจมีเงื่อนไขที่รองรับขยายไปถึงอุปกรณ์ สินค้าคงคลัง สต๊อก และทรัพย์สินทางธุรกิจอื่น ๆ รองรับการประกัน โครงสร้างเพิ่มเติม: การประกันอัคคีภัยอาจครอบคลุมถึงโครงสร้างเพิ่มเติมในทรัพย์สิน เช่น โรงรถ โรงเก็บของ และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ การหยุดชะงักของธุรกิจ: ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ร้านค้า และ สถานประกอบการ มักมีเงื่อนไขรวมความคุ้มครองการหยุดชะงักของธุรกิจ ความคุ้มครองนี้ชดเชยการสูญเสียรายได้ และค่าใช้จ่ายต่อเนื่องที่ธุรกิจอาจประสบเนื่องจากไฟไหม้ ซึ่งทำให้ต้องปิดชั่วคราวหรือขัดขวางการดำเนินงาน ข้อมูลควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ร้านค้า และ สถานประกอบการ ประกันอัคคีภัยประเภทนี้ ยังมีเงื่อนไขในเรื่องของการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยด้วย แต่บางกรมธรรม์อาจยกเว้นการระเบิดของแก๊ส อันเนื่องจากภัยแผ่นดินไหว แต่ถ้าคุณมีความกังวลในเรื่องนี้มหาทรัพย์กฤษณ์ขอแนะนำเพิ่มเติมว่า คุณสามารถขอซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่มาจากความเสียหายจากภัยอื่น ๆ ได้ เช่น ภัยแผ่นดินไหว ภัยน้ำท่วม ภัยจากลูกเห็บ ภัยนัดหยุดงาน การจลาจล หรือการกระทำอันมีเจตนาร้าย เป็นต้น สรุปจากมหาทรัพย์กฤษณ์ การทำประกันอัคคีภัยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของบ้าน เจ้าของร้าน และธุรกิจ ใช้เพื่อการปกป้องทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากอัคคีภัย มอบความอุ่นใจ และทำให้เจ้าของทรัพย์สินสามารถกู้คืนและสร้างธุรกิจได้ใหม่หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ แต่ถึงกระนั้นก็เช่นเดียวกับการทำกรมธรรม์ประกันภัยใด ๆ คุณจำเป็นต้องอ่านและทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย ก่อนที่จะซื้อ
การทำประกันคือเรื่องสำคัญของทุกธุรกิจ แม้แต่กิจการขนาดเล็ก การประกันภัยธุรกิจ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการประกันความคุ้มครองทางการเงินจากความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การคุ้มครองความรับผิด: เช่น การประกันภัยความรับผิดทั่วไป คุ้มครองการเรียกร้องของบุคคลที่สาม สำหรับการบาดเจ็บทางร่างกาย ความเสียหายต่อทรัพย์สิน และการบาดเจ็บจากการโฆษณา ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย การยุติคดี หรือการตัดสินคดี การประกันภัยทรัพย์สิน: การประกันภัยทรัพย์สินครอบคลุมทรัพย์สินทางกายภาพ เช่น อาคาร อุปกรณ์ สินค้าคงคลัง และเฟอร์นิเจอร์ ประกันสามารถจ่ายค่าชดเชยสำหรับความเสียหาย หรือการสูญเสียเนื่องจากประกับภัยที่ครอบคลุม หรือมีการกำหนดไว้ในกรมธรรม์นั้น ๆ ความคุ้มครองการหยุดชะงักของธุรกิจ: ทำให้ธุรกิจสามารถกู้คืนรายได้ที่สูญเสียไป หรือได้รับการชดเชยค่าใช้จ่ายต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่ครอบคลุมของการหยุดชะงัก ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไปได้แม้จะประสบกับความล้มเหลว การประกันภัยทางไซเบอร์: ช่วยปกป้องธุรกิจจากความสูญเสียจากการโจมตีทางไซเบอร์ การละเมิดข้อมูล และหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับทางไซเบอร์ โดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการสืบสวนและจัดการการละเมิดข้อมูล การแจ้งฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ และการเรียกร้องทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น ค่าชดเชยคนงาน: ทุกธุรกิจย่อมจะต้องมีพนักงานหรือคนงานอยู่แล้ว แม้แต่ธุรกิจขนาดเล็กเองก็ตาม โดยทั่วไปจะต้องมีการประกันค่าชดเชยคนงาน ให้สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลและค่าจ้างทดแทนแก่ลูกจ้างที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน การประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพ: หรือที่เรียกว่าการประกันข้อผิดพลาดและการละเว้น (E&O) ความคุ้มครองนี้จำเป็นสำหรับธุรกิจที่ให้บริการ ปกป้องการเรียกร้องที่เกิดจากข้อผิดพลาดทางวิชาชีพ การละเว้น หรือความประมาทเลินเล่อ การประกันภัยความรับผิดต่อผลิตภัณฑ์: สำหรับธุรกิจที่ผลิตหรือขายผลิตภัณฑ์ การประกันภัยความรับผิดต่อผลิตภัณฑ์จะคุ้มครองการเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์ ที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือความเสียหายใด ๆ การปฏิบัติตามกฎหมาย: การประกันภัยธุรกิจบางประเภทอาจต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดมากกว่าธุรกิจอื่น ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งและลักษณะของธุรกิจ
ประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเลและ ทางอากาศภายนอกประเทศ การขนส่งสินค้าทางทะเล ทางอากาศ และระหว่างประเทศ จัดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั่วโลก ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าข้ามประเทศและทวีปต่าง ๆ โดยมีบทบาทสำคัญในระบบการขนส่งระหว่างประเทศ การประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางอากาศ ซึ่งเป็นการขนส่งแบบออกนอกประเทศ จัดเป็นประเภทของการประกันภัยที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองมูลค่าของสินค้าที่ขนส่งทางทะเลหรือทางอากาศ จากความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง การขนส่งทั้ง 2 รูปแบบมีความเสี่ยงโดยธรรมชาติจากการเกิดอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ การโจรกรรม และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางการเงินสำหรับเจ้าของสินค้า ดังนั้นการประกันภัยขนส่ง จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้และรับประกันว่าเจ้าของสินค้าจะได้รับการชดเชยอย่างเพียงพอ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ประกันภัยขนส่งสินค้าภายในและภายนอกประเทศ แตกต่างกันอย่างไร ประกันภัยขนส่งสินค้าภายในและภายนอกประเทศ มีความแตกต่างกันในแง่ของขอบเขตความคุ้มครอง และความเสี่ยงที่อาจเจอจากการขนส่ง โดยมีแนวทางในเรื่องของการรับประกัน ดังนี้ ภายในประเทศ: การประกันภัยการขนส่งภายในประเทศโดยทั่วไป เป็นการประกันภัยทางบก จะเน้นให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุ ความเสียหาย และหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งภายในประเทศ และอาจรวมถึงความคุ้มครองสำหรับการขนส่งทางบก การขนส่งทางรถไฟ การเดินทางทางอากาศภายในประเทศ และการขนส่งภายในประเทศในรูปแบบอื่น ๆ นอกประเทศ: การประกันภัยการขนส่งระหว่างประเทศ เน้นให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น เนื่องจากความซับซ้อนและความเสี่ยงที่สูงขึ้นที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งข้ามพรมแดน ครอบคลุมการป้องกันภัยในวงกว้าง รวมถึงภัยเฉพาะต่อการค้าระหว่างประเทศ เช่น ข้อจำกัดการนำเข้า/ส่งออก ความเสี่ยงทางการเมือง และการปฏิบัติตามกฎระเบียบศุลกากร